ความสลับซับซ้อน และความกำกวมของธุรกิจในปัจจุบันมีสูงมาก จนกระทั่งการบริหารหรือการจัดการไม่ง่ายเหมือนเดิม ทำให้ธุรกิจต้องแสวงหาแนวคิดใหม่และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องการ"คนที่มีความพิเศษ" หรือ "Talent People"
ภูมิ ทัศน์ของการแข่งขันใหม่
โลกของธุรกิจ เป็นเรื่องราวของการบริหารด้านคนใช่หรือไม่ ถ้าอ้างคำพูดของปีเตอร์ ดรักเกอร์ ก็ตอบว่าใช่ แต่ดรักเกอร์บอกว่า “ไม่ใช่บริหารงานบุคคลหรือพนักงาน แต่เป็นการบริหารคน (People Management)"
ดังนั้นการ บริหารคนหรือ People Management จึงก้าวไปไกลกว่าวิชาที่เรียนรู้กันในเรื่อง การบริหารทรัพยากรบุคคลหรือฝ่าย HR ที่พูดถึงกันอยู่ในปัจจุบัน
ทำไมจึงมีการ เปลี่ยนแปลงแปลงได้อย่างมากมายอย่างใหญ่หลวงปานนี้
สิ่งที่เป็นภูมิ ทัศน์ของการแข่งขันใหม่จะมีอย่างน้อยอยู่ 5 ประการด้วยกันในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วย
หนึ่ง:พลวัต ระดับโลก (Global Dynamics) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงในด้านมาตรฐาน (Standards) ลูกค้า (Customers) และปัญญา (Intelligence) อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
สอง:การลดกฎ ระเบียบ (Deregulation) โลกของศตวรรษที่ 21 เป็นโลกของการค้าเสรี หรือระดับของความเสรีใหม่ที่เปิดโอกาสให้กับทุกๆ คนที่มีทุน เทคโนโลยีและนวัตกรรม
สาม:เศรษฐกิจดิ จิทัล (Digital Economics) เทคโนโลยีด้านดิจิทัลได้ก้าวเข้ามาทดแทนทุกๆ สิ่งทำให้เกิดการตายของเวลา สถานที่และวิธีการ หมายความว่า อะไรที่ไม่เคยเป็นไปได้ในโลกธุรกิจ กายภาพ จะเป็นไปได้หมดในโลกดิจิทัล
สี่:วิวัฒนาการ ของอินเทอร์เน็ต (Internet Evolution) ภาย ใต้เศรษฐกิจดิจิทัล อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือผลักทางเศรษฐกิจหรือ “มือที่มองไม่เห็น” ตามแนวคิดของอดัม สมิธ ที่จะทำให้กลไกตลาดเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดสรรทรัพยากร สมดุลของของผลประโยชน์
มีคนกล่าวว่า โลกของ Desktop เป็นโลกของไมโครซอฟท์
แต่โลกของ Web based เป็นโลกของกูเกิ้ล
ห้า:การรวมเข้า มา (Convergence) จะเป็นสิ่งใหม่ของการเชื่อมโยงและรูปแบบที่เกิดขึ้นภายใต้ภูมิทัศน์ของการ แข่งขันใหม่
ดังนั้น พลวัตใหม่ จึงเป็นความกำกวม ความสลับซับซ้อนและความรุนแรง ทั้งด้านอุตสาหกรรม ลูกค้า ซัพพลายเออร์ ความร่วมมือ ผลิตภัณฑ์ โซ่คุณค่าและการแข่งขัน
และ ความท้าทาย คือ กฎใหม่ เกมใหม่ โดยที่ธุรกิจจะปรับวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้น ให้เกิดเป็นความได้เปรียบกับธุรกิจได้อย่างไร
สินทรัพย์ทาง ปัญญา เครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ปัญญา” (Intellectual Assets) เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจใหม่แบบสร้างมูลค่าหรือ เศรษฐกิจดิจิทัล
การที่ธุรกิจใน เมืองไทยสนใจเรื่อง การจัดการความสามารถ การจัดทำเรื่อง KM หรือการจัดการความรู้ หรือเริ่มพูดเรื่อง Talent People : คนที่มีความพิเศษ ผู้เขียนเห็นว่ากำลังเริ่มเข้าสู่เส้นทางที่จะนำไปสู่เรื่องของ การจัดการสินทรัพย์ทางปัญญา (IAM : Intellectual Assets Management)
ทั้งนี้ก็เพราะ การจัดการสินทรัพย์ทางปัญญาหรือ การจัดการทุนทางปัญญา(Intellectual Capital Management) จะเป็นการเปลี่ยนสิ่งที่คนที่มีความพิเศษ (Talent People) สร้างความรู้ออกมาให้กลายเป็น สินทรัพย์ทางปัญญาและเมื่อใดที่นำไปสู่การค้าขายเชิงพาณิชย์และได้รับความ คุ้มครองทางกฎหมายจึงจะเป็น ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property)
ธุรกิจนับจากนี้ ไปจะเป็นเรื่องราวของ การจัดการคนที่มีความพิเศษ (Talent People Management) ที่จะทำให้มีทุนทางปัญญาเกิดขึ้นมากๆ การบริหารงานบุคคลหรือการบริหาร HR เป็นเวอร์ชั่นเก่าที่ต้อง Up Grade หรือไม่ก็อาจจะเลิกใช้ไปเลย (ในความเป็นจริงถอยไปเป็นพื้นฐาน (Ground Rules))
การจัดการคนที่ มีความพิเศษ (Talent People Management )
การจัดการคน พิเศษต้องพิจารณาคนที่มีความพิเศษให้เปรียบเสมือนลูกค้า โดยในขั้นตอนแรกต้องวิเคราะห์หาคน ที่มีความพิเศษในองค์กรก่อน ซึ่งคงไม่ใช้เครื่องมือที่ธุรกิจรู้จักและมีอยู่ดาษดื่นเช่นการทดสอบ สัมภาษณ์ รายการประเมิน
ขั้นต่อมา ต้องดึงดูดคนที่มีความพิเศษโดยปรับวิธีการของการบริหารคนแบบเดิมๆ ใหม่ทั้งหมด
ขั้นตอนสุดท้าย 2 ขั้นตอนคือ การรักษาและบริหารคนที่มีความพิเศษโดยดูแลเหมือนลูกค้าหรือรักษาไว้เหมือน ซัพพลายเออร์
สิ่งที่เป็น ผลลัพธ์ที่ต้องการจากคนที่มีความพิเศษคือ “สินทรัพย์ทางปัญญา” ซึ่งไม่ใช่ความรู้ การแบ่งปันความรู้ หรือผลิตภาพ แต่ต้องมากกว่านั้น
ถ้าใช้ KM อย่างถูกวิธี สินทรัพย์ทางปัญญาจะกลายเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่สร้างความมั่งคั่งให้กับ ธุรกิจและประเทศชาติ
ที่มา : www.nidambe11.net