"ทางลัดสู่ความสำเร็จ" คือ "ทางด่วนสู่ความหายนะ"

"ทางลัดสู่ความสำเร็จ" คือ "ทางด่วนสู่ความหายนะ"


      นักธุรกิจ และผู้บริหารทั่วโลกต่างก็มีนิสัยที่คล้ายกันหลายอย่าง แต่หนึ่งในนิสัยและวิธีคิดที่ไม่ค่อยดีที่เหมือนกันก็คือ อยากได้ "ทางลัด" สู่ความสำเร็จ และนิสัยแบบนี้เป็นนิสัยที่ผู้บริหารไทยเป็นกันมากเสียด้วย หลักสูตรสัมมนาและหนังสือประเภทประสบความสำเร็จด้วย 5 ขั้นตอน หรือประสบความสำเร็จแบบชั่วข้ามคืนจึงขายดิบขายดี รวมทั้งเกมโชว์ที่สร้างเศรษฐีทางลัดรวยเป็นล้านในชั่วข้ามคืนจึงได้รับความ นิยม เพราะ ใครๆ ก็อยากได้ “ทางลัดสู่ความสำเร็จ” 

      แต่ถ้าเราลอง “คิดแบบวิเคราะห์” เลิก “คิดแบบฉาบฉวย ด้วยความโลภโดยไร้ปัญญา” เราก็จะพบว่า นักธุรกิจ เจ้าของกิจการ ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จทุกคน ย้ำว่า "ทุกคน" ในโลกของธุรกิจ ไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จได้ด้วยทางลัด!

      ถ้าจะมีคนที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจด้วยทางลัด หรือประเภทดาวรุ่งพุ่งแรง เราก็มักจะเห็นว่าตอนพุ่งลงมักจะลงเร็วและแรงกว่าตอนพุ่งขึ้นเป็น "ดาวรุ่ง"

      เพราะความสำเร็จแบบทางลัด เป็นความสำเร็จแบบชั่วครู่ชั่วยามและที่จริงแล้วยังไม่สมควรที่จะเรียกว่า เป็นความสำเร็จเสียด้วยซ้ำ เป็นแค่ความหวือหวา วูบวาบแล้วก็หายไป

      ในมุมกลับกัน หลายคนที่เราคิดว่าประสบความสำเร็จทั้งโด่งดัง ทั้งร่ำรวย ถ้ามีโอกาสไปเจาะ "รหัสลับ" ที่มาแห่งความสำเร็จ เราจะพบความมุ่งมั่น ความอดทน ความไม่ยอมแพ้ถึงแม้จะล้มแล้วล้มอีก เพียงแต่เราไม่มีโอกาสรับรู้เพราะเรามักจะมองเห็นแต่ด้านที่สดสวยของความ สำเร็จ โดยไม่เคยคิดว่า ที่มาแห่งความสำเร็จที่แท้จริงผ่านความลำบากและความตรากตรำมามากขนาดไหน

      ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เราจึงเห็น“คนที่เหมือนประสบความสำเร็จ” โดย อาศัยทางลัด โดยอาศัยเส้นสายนักการเมือง โดยการฉกฉวยจังหวะ และโอกาสที่ไม่ค่อยจะชอบธรรม โดยการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ หรือจะโดยวิธีใดก็แล้วแต่ที่เป็นทางลัด จนคล้ายกับคนที่ประสบความสำเร็จแล้วก็ค่อยๆ ล้มหายตายจากไปบนโลกธุรกิจ กลับไปนอนเลียแผลบนโลกแห่งความเป็นจริง

      ความสำเร็จบนโลกธุรกิจและความสำเร็จอย่างยั่งยืนทั้งตัวผู้บริหาร ตัวสินค้า ตัวองค์กร ที่ไม่ใช่ทางลัดก็คือ

      1.  ความสามารถที่แท้จริงที่เกิดจากการ เรียนรู้ การสั่งสมอย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา

      2.  ความมุ่งมั่นที่จะให้ “คุณภาพ” กับลูกค้า ที่ไม่ใช่แค่การ“สร้างภาพ”

      3.  ความอดทนที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าอาจจะยังไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา ก็ยังทำเพื่อรอและสร้างเวลา

      4.  ความถ่อมตัวที่จะเดินไปข้างหน้า โดยปราศจากความเย่อหยิ่ง ลำพอง และ ไม่เคยคิดว่าตนเองกำลังประสบความสำเร็จเลิศเลอ คิดเพียงแต่ทำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดียิ่งขึ้น

      5.  ความ “กล้าที่จะปฏิเสธโอกาสที่ฉาบฉวย โดยปราศจากความละโมบ”

      6.  การมีเป้าหมายที่ชัดเจนที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการรุกแบบไม่ลืมการเตรียม "ตั้งรับ"

      ทั้ง 6 ประการคือ รากฐานแห่งความสำเร็จที่ยั่งยืน และเป็นทางตรงกันข้ามของทางลัด รวมทั้งเป็นวิธีการที่ต้องใช้ทั้ง เวลา ความอดทน และ ความสามารถที่แท้จริง โดยใช้ “โชค และ จังหวะโอกาส เป็นเพียงแรงเสริมแรงหนุน” ที่ไม่ใช่เป็นปัจจัยหลักในการดำเนินธุรกิจ

     
และ ทั้ง 6 ประการเป็นเรื่องที่ “ทำได้ยาก” เพราะเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับ “นิสัยธรรมชาติ” ของ นักธุรกิจยุคใหม่ ที่อยู่ในโลกแห่งความเร็ว ที่มองความอดทน และ ความรอบคอบเป็นความล่าช้า! แต่มอง ความบุ่มบ่าม ความฉาบฉวย หลุมพราง ว่าเป็นโอกาส เป็นกลยุทธ์สู่ความสำเร็จที่ใช้เวลาสั้นที่สุด

      ทุกๆปีในสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ก็มักจะมีกรณีศึกษา “ความสำเร็จที่ฉาบฉวย” แล้วก็จางหายไป ของ ”คนที่ประสบความสำเร็จบนทางลัด” ก่อนที่จะล้มเหลวอย่างเงียบๆ ภายใน 1-2 ปี

     
ทั้งๆที่รู้ถึงสัจธรรม “ไม่มีทางลัดสู่ความสำเร็จ” แต่ทำไม ผู้บริหารในยุคปัจจุบันต่างก็พยายามทุ่มเทความคิด เวลาและชีวิตทั้งหมดที่ไปเพื่อแสวงหา "ทางลัดสู่ความสำเร็จ" และทั้งๆ ที่รู้และไม่รู้ก็มักจะพบว่า “ทางลัดสู่ความสำเร็จ เป็นประตูบานแรกที่เปิดไปเพื่อไปพบประตูบานที่สอง คือ ทางด่วนสู่ความหายนะ"

          ถ้าเราลองใช้เวลาที่มีค่า มุ่งมั่นสร้างเส้นทางที่ยั่งยืน ลืมเส้นทางสู่ความสำเร็จ เราอาจจะพบว่"ในแต่ละวันเรากำลังมุ่งมั่นสร้างเส้นทางสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน"

          ลองเลือกเส้นทางที่ถูกต้องดูนะครับ


ที่มา : http://www.bangkokbizweek.com

 2598
ผู้เข้าชม
ทำเว็บธุรกิจ ทําเว็บขายของ ออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb

People Management

ไม่พบรายการที่คุณค้นหา
Get started for free today. DEMO FREE 60 DAYS
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์